หากลูกค้าท่านใดเคยใช้งานบริการซิมการ์ด และ eSIM อินเทอร์เน็ตกับ Samurai Sim มาก่อน จะต้องคุ้นเคยกับแพ็คเกจหลากรูปแบบ หลายประเทศของเราอย่างแน่นอน แต่ในหลาย ๆ ครั้ง ที่ลูกค้าบางท่านติดต่อสั่งซื้อบริการอินเทอร์เน็ตซามูไร จะเกิดคำถามตามมาว่า
“แล้วแพ็กเกจรายทริป (Trip) กับแพ็กเกจรายวันต่างกันยังไงล่ะ ?”
เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้ Samurai Sim จึงขอมาให้ข้อมูลกับทุกท่าน เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า “ระหว่างแพ็กเกจรายทริป กับแพ็กเกจรายวัน ทั้งสองสิ่งนี้แตกต่างกันอย่างไร” เชื่อว่าข้อมูลต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนในการวางแผน เพื่อเลือกซื้ออินเทอร์เน็ตเดินทางต่างประเทศกับเรา Samurai Sim ได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณการใช้งานอย่างแน่นอน
ก่อนอื่น แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตคืออะไรกันนะ?
ในยุคที่อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ไอทีเฟื่องฟูแบบนี้ ทุกท่านคงจะคุ้นเคยกับคำว่าแพ็กเกจกันดี ว่าแต่สรุปแล้วแพ็กเกจมันคืออะไรกันแน่
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจแบบง่ายที่สุด แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต คือการจำหน่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบจำกัดปริมาณดาต้าอินเทอร์เน็ต ทั้งผ่านเครือข่ายมือถือในประเทศ หรืออินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานต่างประเทศก็ตาม พบได้ทั้งในรูปแบบรายวัน รายเดือน รายทริป รายปี
ยกตัวอย่างเช่น หากซื้อซิม Samurai สำหรับใช้งานประเทศญี่ปุ่น พร้อมแพ็กเกจ 1GB/วัน เมื่อใช้งานปริมาณดาต้าอินเทอร์เน็ตครบ 1 GB ในวันนั้นแล้ว หลังจากนั้น ปริมาณอินเทอร์เน็ตจะลดลง หรืออาจตัดสัญญาณเหลือ 0 Kbps ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดแพ็กเกจที่ท่านเลือกใช้งานด้วยนะ
ข้อดีของอินเทอร์เน็ตเป็นแพ็กเกจแบบนี้ คือจะมีราคาถูกกว่า สามารถคุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตได้ แถมยังเลือกปริมาณของดาต้า ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานต่อวันของทุกท่านได้มากกว่า เรียกได้ว่าสะดวกและคุ้มค่าสุด ๆ
แล้วแพ็กเกจรายทริปกับรายวันต่างกันอย่างไรนะ ?
คำถามคาใจถัดมาของลูกค้า หลังจากได้เห็นรายละเอียดแพ็กเกจให้บริการของเราที่ยาวเหยียดเป็นหางว่าว คือทั้งที่ตัวเลขระบุปริมาณอินเทอร์เน็ตก็เท่ากัน แต่ทำไมเพียงคำต่อท้ายต่าง ราคาก็ต่างกันไปด้วยแล้วล่ะ
เช่น กรณีแพ็กเกจซิมการ์ดอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานที่ญี่ปุ่น
3GB/วัน 15 วัน ราคา 1,699.-
แต่ 3GB/Trip 15 วัน กลับราคา 299.- เสียอย่างนั้น
Samurai Sim ไม่ได้ลงราคาผิดใช่มั้ยเนี่ย ?
ไม่ผิดหรอก เพราะทั้งสองสิ่งนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยน่ะสิ !
อย่างที่เราอธิบายไปแล้วเล็กน้อยข้างต้น แพ็กเกจรายวัน คือการปล่อยดาต้าอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานตามปริมาณที่แจ้งไว้ในชื่อแพ็กเกจ โดยเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตครบตามความเร็วสูงสุดแล้ว ดาต้าจะปรับลดเหลือจำนวนขั้นต่ำ หรืออาจตัดการใช้งาน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่ระบุในแพ็กเกจ และรีเซ็ตกลับมาเป็นปริมาณสูงสุดอีกครั้งในวันถัดไป (อ้างอิงจากแพ็กเกจที่ซามูไรให้บริการ ส่วนใหญ่แล้วแพ็กเกจรายวันของเราจะรีเซ็ตทุก 23:00 น. ตามเวลาไทย) เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย จนกว่าจะครบวันในแพ็กเกจที่ระบุไว้
แต่ ! ถ้าเป็นแพ็กเกจรายทริป ก็ตรงตามชื่อ คือเป็นการซื้อแพ็กเกจแบบเหมาสำหรับใช้งานตลอดทริป โดยไม่มีการรีเซ็ตหรือเพิ่มปริมาณอินเทอร์เน็ตหลังหมดความเร็วสูงสุด เช่น หากท่านเลือกใช้งานแพ็กเกจญี่ปุ่น 3GB/Trip 15 วัน อินเทอร์เน็ตดาต้าปริมาณ 3GB ที่มากับแพ็กเกจ จะมีไว้สำหรับใช้งานตลอด 15 วันที่คุณอยู่ญี่ปุ่น โดยเมื่อใช้งานครบปริมาณสูงสุดที่กำหนดแล้ว สปีดจะตกลงเหลือเพียง 256Kbps เท่านั้น ไม่มีการรีเซ็ตปริมาณใหม่แบบแพ็กเกจรายวัน และหากต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในความเร็วสูงสุดตามเดิม หรือมากกว่าเดิม ต้องติดต่อซื้ออินเทอร์เน็ตเพิ่มเพื่อการใช้งานที่สมูธลื่นไหลยิ่งขึ้นนั่นเอง
นี่จึงเป็นอีกเหตุผลด้วยว่า ทำไมเมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้ว แพ็กเกจรายทริปจึงมีราคาถูกกว่าแพ็กเกจรายวันแบบครึ่งต่อครึ่ง
แล้วฉันเหมาะกับการใช้งานแพ็กเกจแบบไหนกันล่ะ ?
คิดว่าคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดอาจเป็นตัวท่านเอง ถ้าหากต้องการเน็ตที่เสถียร สำหรับใช้อัปโหลดภาพ วิดีโอ หรือไฟล์หนัก ๆ และการใช้งานที่ความเร็วทันใจไม่สะดุด ขอแนะนำให้เลี้ยวมาที่แพ็กเกจรายทริปก่อนได้เลย เพราะมีดาต้าให้เลือกสูงสุดถึง 60GB แถมใช้หมดแล้วก็สามารถซื้อเพิ่มระหว่างทริปได้อีก แต่ถ้าเพียงต้องการเน็ตไว้ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารผ่านแชท ไถโซเชียลผ่านมือถือเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเป็นคนที่รู้ปริมาณเน็ตที่ตนเองใช้ต่อวันคร่าว ๆ อยู่แล้ว บางทีแพ็กเกจรายวันอาจจะคุ้มค่ามากกว่าก็ได้นะ
แต่สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะต้องการอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วใด แพ็กเกจไหน อินเทอร์เน็ตดี ๆ จาก Samurai Sim ก็พร้อมตอบโจทย์คุณ มาทั้งในรูปแบบซิมการ์ด และใหม่ล่าสุด eSIM ที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์ให้รุงรัง ด้วยปริมาณดาด้าที่ปล่อยให้จัดเต็มไม่มีกั๊ก และทีมแอดมินผู้เชี่ยวชาญคอยตอบข้อสงสัย และแก้ปัญหาให้ทุกท่านตลอดทริป รับรองว่า ไม่ว่าจะทริปใด ประเทศไหนก็อุ่นใจหายห่วงแน่นอน !
